ตอบโจทย์หลักๆ 4 ประการคือ
- ควบคุมการทำงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รู้สถานะปัจจุบัน สามารถตัดสินใจสั่งการได้อย่างรวดเร็ว
- การเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบหลักของบริษัท
- จัดเตรียมข้อมูลเชิงสถิติย้อนหลัง หรือข้อมูลจำเป็นต่างๆ ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในด้านต่างๆ
ควบคุมการทำงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ครอบคลุมการทำงานประจำวันของพนักงาน Logistic เช่น การกรอกรายละเอียด Delivery order หรือ คำสั่งการส่งของให้กับลูกค้า หรือส่งไปยัง Site หรือ Warehouse ต่างๆ ทั้งของบริษัทเองในจังหวัดต่างๆ พร้อมกับระบุ รายการสินค้าทั้งหมดพร้อมกับจำนวนที่ต้องการให้ขนส่ง ไปยังเป้าหมายแต่ละที่
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image002.jpg)
การออก Job Order ซึ่งกำหนดว่า จะให้รถคันไหนรับหน้าที่ส่งของในแต่ละ Order ทั้งนี้ รถแต่ละคันอาจไปส่งของหลายจุดพร้อมๆ กัน ดังนั้น Delivery Order ของรถแต่ละคันจะถูกรวบรวม ออกเป็น Job Order ซึ่งจะระบุว่ารถคันดังกล่าวจะต้องไปส่งของที่ไหนบ้าง ตามลำดับ โดยระบบจะจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ให้เพื่อใช้ในการตัดสินใจ
- ตำแหน่งปัจจุบันของรถแต่ละคัน
- รถคันใดบ้างที่อยู่จอดรออยู่ สามารถที่จะใช้งานได้เลย
- รถคันใดบ้างที่กำลังจะเข้า และอยู่ห่างออกไปกี่ กิโลเมตร
- หลังจากเข้าแล้ว รถแต่ละคันมี order ค้างอยู่กี่รายการ มีของอะไรบ้างบนรถ ซึ่งจะสามารถประมาณการคร่าวๆ ได้ว่าสามารถที่จะรับ Order เพิ่มได้อีกเท่าไหร่
- ประวัติการทำงานของรถแต่ละคัน การกระจาย work load ช่วงเวลาพัก
การขนของขึ้นรถและลงรถ โดยยึดตาม Delivery order ซึ่งพิมพ์ออกจากระบบ และการให้ลูกค้าเซ็นยืนยันเพื่อ เก็บหลักฐานการส่งของ และการถ่ายโอน Inventory ในกรณีที่เป็นการขนย้ายระหว่าง Distribution Center และ Warehouse ย่อยของบริษัทตามพื้นที่ต่างๆ
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image004.jpg)
กระบวนการต่างๆ ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้ ลดความผิดพลาด และก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน การเชื่อมต่อกันของข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การจัดเตรียมของ การเบิกของออกจากคลัง การลำเลียงขึ้นรถ ไปจนถึงมือลูกค้า เป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
รู้สถานะปัจจุบัน สามารถตัดสินใจสั่งการได้อย่างรวดเร็ว
ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน หรือมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่นกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุ หรือมี Order ด่วนที่จำเป็นจะต้องส่ง ผู้ที่บริหารจัดการงาน Logistic ควรที่จะสามารถปรับเปลี่ยนแผนดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ตำแหน่งปัจจุบันของรถ เป็นข้อมูลอย่างหนึ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าจะมีการวางแผนไว้แล้วเป็นอย่างดี ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 100% อันสืบเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น จากการจราจร อุบัติเหตุ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ และเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งในการทำงาน
ุ
![](images/proj/proj_logistic_clip_image006.jpg)
การผสานระบบ GPS Tracking System เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Logistic Management System ทำให้ผู้ที่บริหารจัดการงานด้าน Logistic ทราบสถานะและตำแหน่งปัจจุบัน ที่ถูกต้องตลอดเวลา และทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถคาดเดาเหตุที่ไม่คาดคิดล่วงหน้า ทำให้เกิดการแก้ไขอย่างทันท่วงทีก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นจริง
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image008.jpg)
- ผู้ที่วางแผนงาน Delivery controller / Job controller สามารถเห็นตำแหน่งของรถแต่ละคันบนแผนที่ ซึ่งจะทำให้ทราบล่วงหน้าว่า Job ใดที่มีแนวโน้มที่จะล่าช้า และควรจะต้องมีการปรับแผนดำเนินการหรือไม่
- ผู้ที่ประจำ Warehouse / Distribution center สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าว่ารถแต่ละคันจะเข้ามาถึงเวลาใดจากระยะทางของรถที่แสดงบนแผนที่ และสามารถดูใบ Delivery Order ในระบบ ทำให้สามารถเตรียมการล่วงหน้าก่อนของเข้า และสามารถลดเวลาที่ใช้ในการขนถ่ายลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบหลักของบริษัท
สามารถส่งผ่านข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับระบบต่างๆ ได้ ข้อมูลหลักๆ เช่นระบบ Inventory, ระบบ ERP, ระบบบัญชี, ระบบ CRM เป็นต้น
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image010.jpg)
จัดเตรียมข้อมูลเชิงสถิติย้อนหลัง หรือข้อมูลจำเป็นต่างๆ ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในด้านต่างๆ
ข้อมูลสถิติต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ข้อมูลที่มีความชัดเจนและครบถ้วน สามารถนำมาซึ่งข้อสรุปได้ ว่าการบวนการทำงานปัจจุบันมีปัญหาอย่างไร มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างไร และจุดใดเป็นจุดอ่อนที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน จุดใดที่ดีอยู่แล้วแต่ยังสามารถทำให้ดีขึ้นอีกได้ เพื่อพัฒนาเป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งอย่างยั่งยืน
ข้อมูลสถิติต่างๆ ที่จำเป็นในงานบริหาร Logistic มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- ข้อมูลเกี่ยวกับ Throughput ของแต่ละ Warehouse หรือ Distribution center เช่น จำนวนรถเข้าออกเฉลี่ยในแต่ละวัน จำนวนเที่ยวรถที่ขนของออก / เข้า ความหนาแน่นในแต่ละช่วงเวลา ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการ Human resource ให้สอดคล้องกับปริมาณงาน การจัดแบ่งผลัดการทำงาน และจำนวนคนที่จะต้องจ้างในแต่ละผลัด
- ข้อมูลเกี่ยวกับพฤฒิกรรมของพนักงานขับรถ เช่น ประวัติการใช้ความเร็ว ประวัติการออกนอกพื้นที่ ประวัติการเกิดอุบัติเหตุ
![](images/proj/proj_logistic_clip_image012.jpg)
- ข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคน จำนวนเที่ยวต่อวัน จำนวนเที่ยวรวมต่อเดือน ระยะทางเฉลี่ยนต่อวันใน 1 เดือน ระยะทางสะสมแต่ละเดือน ทั้งนี้อาจใช้ข้อมูลดังกล่าวในการจูงใจพนักงานเช่น เป็นมาตรฐานในการจ่าย commission หากปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image014.jpg)
- เปรียบเทียบเส้นทาง ระยะทาง และเวลาที่ใช้ของพนักงานแต่ละคน เส้นทางใดมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ เช่นบางเส้นทางสั้นกว่า แต่ถนนเลนเดียวทำให้ใช้เวลามากกว่าเนื่องจากแซงได้ยาก ข้อมูลจะช่วยชี้วัดได้ว่าทางเลือกใดมีความเหมาะสมมากที่สุด
![](images/proj/proj_logistic_clip_image016.jpg)
ตัวอย่างรายงานแสดงเส้นทางในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบเส้นทางที่พนักงานแต่ละคนใช้ เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละเส้นทาง
![](images/proj_tn/proj_logistic_clip_image018.jpg)
ตัวอย่างการแสดงสถิติการเดินทางไปยัง Site ต่างๆ ในแต่ละวัน
|